(1). เชื่อมั่น: การศึกษาทำในคนวัยกลางคนและสูงอายุพบว่า ความจำของคนเราแปรตามความเชื่อมั่น คนเราจะจำอะไรๆ ได้ดีถ้าเชื่อมั่นว่า "เราทำได้" คนที่มองโลกในแง่ดีและเชื่อว่า ความจำของคนเราไม่ลดน้อยถอยลงไปตามอายุจะมีความจำดีกว่าคนที่คิดว่า "โอ... เราแก่แล้ว จำสู้เด็กๆ ไม่ได้"
(2). ประหยัด: ทุกวันนี้หน่วยงานดีๆ จะมีกิจกรรม "5ส" เพื่อให้หน่วยงานเป็นระเบียบ ข่าวดีคือ การจัดเรื่องต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่ช่วยป้องกันการลืม เครื่องมือป้องกันการลืมที่สำคัญได้แก่ ปฏิทิน แผนที่ สมุดวางแผน แผ่นจดรายการของต้องซื้อก่อนไปชอปปิ้ง สมุดจดที่อยู่-เบอร์โทรศัพท์
(4). ใช้ประสาททั้งห้า: ใช้ประสาททั้งตา หู จมูก ลิ้น และกายที่ประทับใจมากที่สุด เพื่อจดจำเรื่องราว ประทับใจอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องขอ"เชื่อมโยง" กับประสบการณ์ในอดีตด้วยว่า สัมผัสหรือเรื่องนั้นคล้ายกับอะไรด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากจำรายละเอียดในร้านอาหารให้ ลองสูดหายใจเข้าแรงๆ ได้กลิ่นอะไรให้รีบจำกลิ่น และเชื่อมโยงว่า กลิ่นนี้คล้ายกลิ่นอะไร เช่น คล้ายกลิ่นขนมที่คุณยายทำให้ตอนอายุ 2 ขวบ ฯลฯ
(6). เรียกชื่อ: คนเราจะจำชื่อคนได้ดีขึ้นถ้าเรียกชื่อคนที่เราเห็นทุกครั้ง หรือถ้านึกถึงใครในใจก็ให้รีบทบทวนชื่อคนนั้นทันที
(8). คำย่อ: คำย่อมีส่วนช่วยให้จำอะไรได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างที่อาจารย์ท่านยกมาเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าจะจำตัวอักษรตัวแรกของคำต่างๆ 5 คำ(E, G, B, D, F) ให้ลองนำอักษรตัวแรกมาแต่งเป็นประโยค เช่น Every good boys does fine. ฯลฯ
(9). ท้าทาย: สมองคนเราเป็นเรื่องที่ต้อง "ท้า(ทาย)" หรือฝึกบ่อยๆ จึงจะใช้การได้ดี การฝึกสมอง เช่น การเล่นคำต่อ (crossword) หมากรุก การฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดทำงาน ฯลฯ มีส่วนช่วยฝึกสมองให้ตื่นตัว และใช้การได้ดีขึ้นในระยะยาว
(10). นอนให้พอ: คนที่พักผ่อนนอนหลับเพียงพอมักจะจดจำอะไรๆ ได้ดีกว่าคนที่อดนอน ถ้าจะถนอมสมองให้ใช้ได้ดีไปนานๆ ก็ควรนอนให้พอ และอาจเสริมด้วยกิจกรรมฝึกสมาธิ เช่น ไทเกก-ไทชิ(ชี่กง) สมาธิกำหนดลมหายใจ ฯลฯ และออกกำลังเป็นประจำ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : http://www.joinstick.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น